ทิ้งหมัดเข้ามุม : รอวันลงโทษฆาตกร

ทิ้งหมัดเข้ามุม : รอวันลงโทษฆาตกร


รุก กลางกระดาน
เวียนมาครบรอบอีกครั้ง สำหรับเหตุการณ์ขอคืนพื้นที่การชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553
โดยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารบุกเข้าถึงเวทีปราศรัยบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อช่วงสายของวันที่ 19 พ.ค. 2553 หรือเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งเย็นวันนี้กลุ่มของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุดก็นัดกันไปกินแฮมเบอร์เกอร์รำลึกความหลัง
คงต้องรอดูว่าจะมีคนมากน้อยแค่ไหนที่ไปร่วมรำลึก
แต่ก็เชื่อว่ายังมีคนจดจำ และต้องการ ให้ทุกอย่างได้คลี่คลาย
เนื่องจากเหตุการณ์พฤษภา 2553 นับเป็นความรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่เจ้าหน้าที่รัฐกระทำต่อ ประชาชน
จนมีผู้เสียชีวิตถึง 99 ศพ บาดเจ็บกว่า 2 พันคน!??
แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการสะสาง ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น
ขณะที่ป.ป.ช.สั่งยกฟ้อง แต่ญาติเหยื่อยื่นอุทธรณ์ให้พิจารณาใหม่อีกครั้ง 
น่าเสียดายที่ป.ป.ช.ทำคดีนี้อย่างเชื่องช้า ผิดกับการพิจารณาคำร้องเรื่องอื่นๆ อาทิ เรื่องจำนำข้าว
จนน่าสงสัยว่าจะใช้มาตรฐานเดียวกับที่พิจารณาเรื่องประกันราคาข้าว และทุจริตก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง ที่มีพรรคประชา ธิปัตย์เป็นจำเลย
จึงไม่แปลกที่ญาติผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และผู้รักความเป็นธรรมจะรวมตัวเรียกร้องไขข้อเท็จจริงให้กระจ่างออกมา 
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายในเหตุการณ์ดังกล่าวที่ยังคงคลุมเครือ ไม่ว่าจะเป็นการเผาห้างสรรพสินค้ากลางแยกราชประสงค์ โรงภาพยนตร์ย่านสยามว่าเกิดขึ้นจากฝีมือใครกันแน่
เพราะตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหารพร้อมอาวุธครบมือก็เข้าควบคุมพื้นที่ได้เบ็ดเสร็จ
จนไม่รู้ว่าคนเสื้อแดง ชุดดำ ที่ไหนจะหาโอกาสมาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ได้
ไม่รวมกับเหตุการณ์ 6 ศพวัดปทุมวนาราม ที่ผลการไต่สวนการตายระบุว่าถูกกระสุนปืนเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต ซึ่งเรื่องก็เงียบหาย ไร้ความคืบหน้า
การแสดงออกของผู้สูญเสียในวันครบรอบ 8 ปีนี้ จะเป็นสิ่งยืนยันว่าไม่มีทางที่จะปรองดองกันได้ หากความยุติธรรมไม่ปรากฏ
ก็คงต้องเฝ้ารอให้ถึงวันที่ฆาตกรถูกลงโทษ
ซึ่งหวังว่าคงจะเกิดขึ้นได้จริง

ดราม่า! หนุ่มทำคลิปแอบถ่าย เอารถเบนซ์ล่อสาวไทย-พอขึ้นรถด่าแรงผู้หญิงน่าเงิน


กลายเป็นคลิปไวรัลสุดดราม่า เมื่อชาแนล DOMteamwork ทางยูทูป เผยคลิปที่ระบุว่าเป็นคลิป ลองใจ สะท้อนสังคม “แกล้งเอารถหรูไปจีบสาว” โดยในคลิปเป็นการแอบถ่าย ชายหนุ่มเจ้าของรายการแกล้งเดินไปถามเบอร์และไลน์ผู้หญิงที่ป้ายรถเมล์ โดยฝ่ายหญิงปฏิเสธ บอกว่ามีแฟนแล้ว ต่อมา ชายหนุ่มโทรไปบอกให้อู่เอารถที่เอาไปซ่อมมาส่งคืน คนจากอู่จึงขับรถเบนซ์สุดหรูมาจอดที่ป้ายรถเมล์ ปรากฏว่าผู้หญิงคนเดิมเดินเข้ามาถามว่า นี่รถของคุณหรือ ฝ่ายชายตอบว่าใช่ ผู้หญิงจึงบอกว่า ใหเอาเบอร์โทรศัพท์ตนไปเพื่อจะโทรมาถาม ฝ่ายชายจึงบอกให้ฝ่ายหญิงขึ้นรถ ตนจะไปส่ง ฝ่ายหญิงก็ตามขึ้นรถไป
เมื่อถึงบนรถ เจ้าของรายการจึงบอกผู้หญิงว่า เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าเงินมาก ตอนแรกไม่ให้เบอร์ พอเห็นว่ามีรถหรูจึงยอมไปด้วย ฝ่ายหญิงจึงลงจากรถไป
เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ขณะที่หลายคนยังมองว่าคลิปนี้อาจเป็นคลิปจัดฉากเท่านั้น
ตาร่ำไห้แทบขาดใจ ยายคู่ชีวิต ว่ายน้ำกลับไปเก็บรองเท้า จมหายต่อหน้า

ตาร่ำไห้แทบขาดใจ ยายคู่ชีวิต ว่ายน้ำกลับไปเก็บรองเท้า จมหายต่อหน้า


วันที่ 16 พ.ค. ร.ต.อ.ไมตนี พากุล ร้อยเวร สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนจมน้ำหายไปในสระน้ำ ในสวนยางพารา ม.10 ซ.เนินพยอม ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวรรพ.มาบตาพุด และหน่วยกู้ภัยหลวงปู่ทิม อิสริโก มาบตาพุด ไปค้นหาร่างผู้สูญหายทันทีมื่อไปถึงพบชาวบ้านกำลังยืนมุงกันอยู่ริมสระน้ำขนาดใหญ่ กว้าง 50 ม. ยาว 200 ม. โดยมีนายภิรมย์ รีรมย์ อายุ 72 ปี นั่งร่ำไห้อยู่ริมสระน้ำ ก่อนจะให้การว่า ผู้ที่จมน้ำหายไปคือ นางหนุน รีรมย์ อายุ 71 ปี ภรรยาคู่ชีวิต โดยให้การทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุได้ชวนกันมาเล่นน้ำคลายร้อน ซึ่งมาเล่นเป็นประจำสองคน แต่ขณะที่กำลังจะขึ้นจากน้ำ นางหนุนได้เห็นรองเท้าลอยออกไปกลางสระน้ำ ด้วยความเสียดายจึงรีบกระโดดลงไป เพื่อนำรองเท้าขึ้นมา จู่ก็ได้ยินเสียงร้องจากผู้ตายให้ช่วยเหลือ ปรากฏว่าได้จมหายไปต่อหน้า จึงรีบลงไปช่วยแต่ด้วยความขาหมดแรงกำลังจะจมน้ำ จึงร้องขอความช่วยเหลือ ปรากฎว่า นายสมชาย นิรันดร์ อายุ 28 ปี ที่กำลังตกปลาอยู่รีบโยนสวิงลงไป โดยที่ตนจับไว้ จึงรอดตายหวุดหวิด

ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ลงไปงมค้นหาร่างผู้สูญหาย ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็สามารถนำศพขึ้นมาได้ เบื้องต้นไม่พบบาดแผลตามร่างกาย เมื่อนำศพขึ้นมาบนขอบสระ นายภิรมย์ สามีผู้เสียชีวิต ก็รีบโผเข้ามาดูถึงกับร่ำไห้ออกมาปริ่มจะขาดใจ เป็นที่สลดใจแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะนำตัวส่งชันสูตรต่อไป

เบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตคงจะหมดแรงไม่สามารถพยุงร่างเข้าฝั่งได้ จึงจมลงก้นสระที่มีความลึก ซึ่งได้ประสานทางบุตรหลานให้ทราบเรื่อง พร้อมกับรอผลชันสูตรสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
รวบหนุ่มลอบปลูกกัญชาในบ้าน ตะลึงเปิดแอร์-ส่องไฟควบคุมอุณหภูมิอย่างดี

รวบหนุ่มลอบปลูกกัญชาในบ้าน ตะลึงเปิดแอร์-ส่องไฟควบคุมอุณหภูมิอย่างดี


เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 พ.ค. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.อภิโชค ขนบดี สว.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.กอบศักดิ์ โพธิ์วารี สว.สส.สน.โชคชัย นำหมายค้นศาลอาญา ที่ 339/2561 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 338/69 หมู่บ้านย่าน ซ.ลาดพร้าว 87 แยก 10 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ หลังได้รับการร้องเรียนว่าบ้านหลังดังกล่าวมักเปิดเพลงส่งเสียงดังเป็นประจำ และอาจเป็นสถานผลิตยาเสพติดขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น จากการตรวจสอบที่บริเวณชั้นล่าง โดยมีนายสมประสงค์ แก้วคูณ อายุ 33 ปี รับเป็นเจ้าของ จากการตรวจสอบภายในพบต้นกัญชาขนาดเล็กและใหญ่กำลังบานสะพรั่งในกระถางจำนวน 9 ต้น และเมล็ดพันธุ์พืชกัญชาอีกประมาณ 50 กรัม ตู้อบกัญชาแบบพรีเมี่ยม จำนวน 3 ตู้ ติดหลอดแอลอีดีให้ความสว่าง เปิดพัดลมระบายความร้อน เครื่องวัดอุณหภูมิ 1 เครื่อง เครื่องวัดปุ๋ย 3 เครื่อง ถังผสมน้ำปุ๋ย 2 ถัง เครื่องวัดค่า PF จำนวน 2 เครื่อง ไฟส่องให้แสงอุลตรา 1 แผง และขวดแก้วสำหรับดูดกัญชา 1 ขวด พร้อมเปิดแอร์ควบคุมอุณหภูมิเป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดพร้อมควบคุมตัวมาสอบสวน
นายสมประสงค์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยไปเที่ยวที่ประเทศออสเตรเลียมาก่อน จากนั้นจึงได้ไปเห็นกระบวนการผลิต เมื่อกลับมาที่ประเทศไทยจึงทดลองปลูกได้ประมาณ 1 ปี และได้ผลผลิตดี โดยการปลูกตั้งแต่เมล็ดพันธุ์จนกระทั่งขายได้ จะอยู่ที่ประมาณ 4 เดือน โดยต้นกัญชา 1 ต้น จะผลิตกัญชาออแกนิก 50 กรัม ก่อนนำไปขายในราคา 35,000 บาท โดยจะปลูกไว้เพื่อเสพและแบ่งขายให้เพื่อนกลุ่มนักเรียนที่เคยไปเรียนต่างประเทศ และนักศึกษาตามมหาวิทยาลัย
เบื้องต้นแจ้งข้อหาว่า “ผลิตยาเสพติด ประเภท 5 (กัญชา) และมียาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครองครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” นำส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ลูกค้าหายหมด! แม่ค้า‘ตลาดทุ่งเกวียน’โอดขอความเห็นใจขายของไม่ได้

ลูกค้าหายหมด! แม่ค้า‘ตลาดทุ่งเกวียน’โอดขอความเห็นใจขายของไม่ได้


จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพการซากสัตว์ป่าทั้งเนื้อเก้ง เนื้อกวาง กระจง หมูป่า กระต่ายป่า ตุ่น กระรอก รังผึ้งป่า มาค้าขายในพื้นที่ตลาดทุ่งเกวียน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ตลาดขายของฝากชื่อดังจังหวัดลำปาง ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่เนื้อสัตว์ป่า และไม่ได้มีการติดป้ายว่าเป็นเนื้อสัตว์ป่าแต่อย่างใด แต่เป็นคำเชิญชวนของคนขายบางคนที่แอบอ้างว่าเป็นสัตว์ป่า
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ตลาดทุ่งเกวียน ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง นางศุกลรัตน์ จันทร์มณี ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.ลำปาง ว่าที่ ร.ต.ฐนพงษ์ ปุรินทราภิบาล หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง นางกิตติยา นิ้วยะวงศ์ ปลัดอำเภอห้างฉัตรฝ่ายป้องกัน พ.ต.อ.สมพงษ์ ตั้งตัว ผกก.สภ.ห้างฉัตร พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ปศุสัตว์ พาณิชย์จังหวัด และสคบ. ร่วมกันเข้าตรวจสอบเป็นวันที่ 4 ก่อนประชุมกับเจ้าของตลาด
โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าติดป้ายว่าเป็นเนื้อสัตว์ชนิดใดรวมถึงราคาที่ขายให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีการหลอกลวงผู้ซื้อได้อีก นอกจากนั้นทางตลาดยังได้นำป้ายไวนิลขนาดใหญ่มาติดไว้โดยมีข้อความว่า “ห้ามขายสัตว์สงวนทุกชนิด” รวมทั้งเตรียมทำสัญญากับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายซากสัตว์ทั้งหมดในตลาดทุ่งเกวียนเพื่อห้ามนำซากสัตว์ป่าหรือสัตว์สงวนมาขาย และเตรียมปรับปรุงและแบ่งโซนการขายเนื้อสัตว์ให้ถูกสุขลักษณะและมีมาตรฐาน
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวพบว่าแม่ค้าที่ขายของฝากต่างๆภายในตลาดทุ่งเกวียนหลายคน ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหลังเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ทำให้แม่ค้าที่ขายของประเภทต่างๆทั้ง แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว และแมลงทอด ไม่ใช่เฉพาะขายเนื้อสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่ง 2–3 วันมานี้ลูกค้าลดลงเห็นได้อย่างชัดเจนขายสินค้าไม่ได้จากเดิมที่ขายได้วันละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาทก็เหลือวันละ 500-600 บาท
แม่ค้าบางรายก็ไม่กล้าลงทุนซื้อของมาขายโดยเฉพาะผักผลไม้เพราะกลัวขายไม่ออกของก็จะเสีย หรือแม่ค้าบางรายก็ปิดแผงไปเลยเพราะไม่มีลูกค้ามาเลือกซื้อสินค้า โดยกลุ่มแม่ค้าก็ได้ขอความเห็นใจอย่าเหมารวมทั้งตลาด เพราะของฝากอื่นๆขายไม่ได้จริงๆจนทำให้เดือดร้อนไปถึงครอบครัวที่ต้องใช้จ่ายเงินทุกวันอีกด้วย
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผย ไม่พบสารอันตราย อาหารเสริมบีเคิร์ฟของ “เบลล่า”

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผย ไม่พบสารอันตราย อาหารเสริมบีเคิร์ฟของ “เบลล่า”


วันที่ 16 พ.ค. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีเบลล่า ราณี แคมเปน นักแสดงสาวชื่อดัง นำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบีเคิร์ฟ มาให้กรมวิทยาศาสตร์ตรวจสอบเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ว่า เบื้องต้นตนได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวไม่พบสารต้องห้ามหรือสารอื่นใดที่เป็นอันตราย
ด้าน ภก.สมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ ว่า สำหรับการตรวจสอบมาตรฐานสถานที่ผลิต หรือโรงงานผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่ผ่านมาได้ไปตรวจสอบโรงงานหรือสถานที่ผลิตที่มีการจดแจ้งจำนวนมากก่อน อย่างในกทม.เราพบว่า มีโรงงานอยู่ 6 แห่งมีรายการจดแจ้งจำนวนมากกว่า 1,000 รายการขึ้นไป แต่กลุ่มนี้ไม่ค่อยน่าห่วง เพราะเป็นโรงงานขนาดใหญ่ แต่จะมีผู้ผลิตรายเล็กประมาณ 25 แห่งมีรายการจดแจ้งถึง 300 รายการขึ้นไปรวมทั้งผู้ผลิตรายเล็กอีก 100 แห่งที่มีรายการจดแจ้งอีก 100-300 รายการ ที่เหลือก็เป็นรายเล็กมีประมาณ1-49 รายการมีอยู่ประมาณ 2,722 แห่ง ซึ่งเราก็จะตรวจสอบทั้งหมด แต่ในส่วนของภูมิภาคจะมีอีกประมาณ 7,000 กว่าแห่ง เราก็จะประสานไปที่จังหวัดให้ตรวจสอบต่อไป ซึ่งต้องบอกก่อนว่า จำนวนตัวเลขผู้จดแจ้งเหล่านี้ยังไม่ได้พบว่า มีความผิด แต่เราจะเข้าไปตรวจสอบเพื่อความมั่นใจและให้เป็นไปตามมาตรฐาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการกำหนดรายการการจดแจ้งของแต่ละโรงงานไม่ให้มีจำนวนมากเกินหรือไม่ ภก.สมชาย กล่าวว่า คงทำไม่ได้ แต่อย.มีการตรวจสอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ส่วนที่มีคำถามว่า จะควบคุมให้โรงงานแต่ละแห่งจดแจ้งการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพประเภทใดประเภทหนึ่งได้หรือไม่นั้น ก็ต้องดูมาตรฐานการผลิตของแต่ละแห่ง เพราะหลายแห่งสามารถผลิตได้ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพราะแยกส่วนไลน์การผลิตชัดเจน และมีการขอการรับรองแต่ละประเภทอย่างถูกต้อง ตรงนี้ก็ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป แต่ถ้าใครทำผิดกฎหมายก็ต้องได้รับโทษ มีการดำเนินคดี เพราะเรามีเกณฑ์การควบคุมอยู่ ส่วนเรื่องผลิตภัณฑ์ของ “ลีน” และ “เมจิกสกิน” นั้นก็ได้มีการส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปดำเนินการต่อไปแล้ว
กรี๊ดลั่นโรงพยาบาล! เจ้าหน้าที่หญิง ร.พ.ศรีสะเกษ ถูกรางวัลที่ 1 รวย 12 ล้าน

กรี๊ดลั่นโรงพยาบาล! เจ้าหน้าที่หญิง ร.พ.ศรีสะเกษ ถูกรางวัลที่ 1 รวย 12 ล้าน


หลังกองสลากประกาศผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16 พ.ค.61 ซึ่งรางวัลที่ 1 ได้แก่หมายเลข 075629 ล่าสุดเฟซบุ๊กเพจ “อีสานพาม่วนซื่น” ได้โพสต์ภาพของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหญิงของ โรงพยาบาลศรีสะเกษ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ รับเงินรางวัล 12 ล้านบาท โดยในภาพคาดว่าน่าจะเป็นหญิงเจ้าของสลากกินอบ่งรัฐบาล ได้ถือสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ พร้อมกับทำท่าดีใจเป็นอย่างมากเมื่อตัวเองถูกรางวัลที่ 1 จากนั้นก็มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความยินดีกันเป็นจำนวนมาก ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ขอบคุณเฟซบุ๊ก อีสานพาม่วนซื่น
ฉกทรัพย์ครูสอนลูกตัวเอง! จนท.ตามรวบหนุ่มใหญ่คาบ้าน อ้างเห็นรถไม่ล็อกประตู

ฉกทรัพย์ครูสอนลูกตัวเอง! จนท.ตามรวบหนุ่มใหญ่คาบ้าน อ้างเห็นรถไม่ล็อกประตู


เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สองพี่น้อง ร่วมกันจับกุมนายเดช สมดี หรือติ่ง อายุ 49 ปี ที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 7 ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง พร้อมของกลาง หลังจากได้รับแจ้งจากว่าที่ ร.ต.สมเดช เรืองขจร ผอ.รร.อนุบาลวัดดงตาล ต.บางพลับ อ.สองพี่น้อง ว่า มีเหตุลักทรัพย์เกิดขึ้นภายในโรงเรียนอนุบาลวัดดงตาล จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบโดยพบผู้เสียหาย คือ น.ส.จิรปภา เพลงปาน อายุ 27 ปี ครูประจำชั้นอนุบาล 1 เล่าให้ฟังว่า ตนขับรถเก๋งวีออส สีขาว ทะเบียน กต 7332 กาญจนบุรี มาจอดในโรงเรียน เพื่อมาสอนหนังสือเป็นวันแรกในวันเปิดเทอม แต่ถูกคนร้ายขโมยกระเป๋าถือที่อยู่ในรถ ซึ่งมีเงินสดกว่า 3 หมื่นบาท กล้องถ่ายรูป 1 ตัว และสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 9 ใบ รวมถึงทรัพย์สินมีค่าต่างๆ รวมกว่า 5 หมื่นบาท ตนคาดว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่นำบุตรหลานมาส่ง จึงเดินทางไปแจ้งความ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมนายเดช ซึ่งเป็นผู้ปกครองนักเรียนชั้นอนุบาล สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ตนและภรรยาพาลูกชาย อายุ 3 ขวบ นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไปส่งลูกที่โรงเรียน เมื่อขับผ่านรถเก๋งสีขาว สังเกตเห็นรถไม่ล็อกประตูไว้ โดยมีกระเป๋าถือแบบหญิงวางอยู่หน้ารถ จึงจอดรถจักรยานยนต์ แล้วหยิบกระเป๋าออกมาเปิดดู พบว่ามีเงินสด และของมีค่าหลายอย่าง จึงรีบขับรถจักรยานยนต์ออกมา ก่อนนำเงินไปซื้อทีวี จานดาวเทียม และของเล่นให้ลูก เงินที่เหลือก็แบ่งให้ลูกเมียไว้ใช้ อีกส่วนหนึ่งจะนำไปซื้อยาบ้าไว้เสพ กระทั่งถูกตำรวจจับได้ ซึ่งตนไม่รู้ว่าเป็นรถของครูที่สอนลูกชาย
ด้าน พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.สองพี่น้อง เปิดเผยว่า จากการดูภาพจากกล้องวงจรปิดส่วนหนึ่ง จึงติดตามเบาะแสและติดตามจับกุมได้ พร้อมทำการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยก่อเหตุลักทรัพย์ และถูกจับคดียาเสพติดในหลายท้องที่ ล่าสุดก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบริเวณวัดไผ่โรงวัว ท้องที่ สภ.บางตาเถร จึงควบคุมตัวดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
ดวงวันพุธที่ 16 พฤษภาคม 2561 ราศีใดมีโชคได้ลาภใหญ่-ราศีใดได้เงินก้อนโตน่าพิศวง

ดวงวันพุธที่ 16 พฤษภาคม 2561 ราศีใดมีโชคได้ลาภใหญ่-ราศีใดได้เงินก้อนโตน่าพิศวง


ดวงใครดวงมัน
หมอทรัพย์ สวนพลู (ไม่ได้รับทำนายเป็นการส่วนตัว)
ราศีเมษ เกิดตั้งแต่ 13 เม.ย.-14 พ.ค.
ท่านมีความคล่องตัวในการบริหารงานและการติดต่อต่างๆ มีโชคในการจัดการเรื่องเงิน มีผู้คนแปลกๆ เข้ามาใกล้บ้านเรือนของท่าน มีรายจ่ายที่ท่านไม่พอใจ ผู้ใกล้ชิดบอกข่าวดี
ราศีพฤษภ เกิดตั้งแต่ 15 พ.ค.-14 มิ.ย.
ท่านมีการเตรียมตัวเพื่อรับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น ได้ข่าวที่ไม่ดีไม่จริงแต่ ท่านก็เชื่อ ได้ลาภลอย อาจจะมีการทำงานเกี่ยวแก่การเดินทาง หรือติดต่อกับผู้ที่อยู่ ห่างไกล
ราศีมิถุน เกิดตั้งแต่ 15 มิ.ย.-15 ก.ค.
ท่านมีความคิดในกิจการต่างๆ ที่เป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีเครื่องมือเครื่องใช้ในการสื่อสารแบบใหม่ๆ ได้เงินสดและลาภลอยเป็นอันมาก บริวารโชคดีทั่วหน้ากัน ใช้สายตามาก
ราศีกรกฎ เกิดตั้งแต่ 16 ก.ค.-16 ส.ค.
ท่านได้ลาภใหญ่อย่างน่าประหลาดใจ คนรักคู่หมั้นคู่สมรสทำเงินสดหายจำนวนหนึ่ง แต่พี่น้องของท่านกำลังโชคดีมาก ตัวท่านเองก็มีโชคขนาดถึงกับได้บ้าน ควรระงับใจให้ดี
ราศีสิงห์ เกิดตั้งแต่ 17 ส.ค.-16 ก.ย.
ท่านอาจจะเดือดร้อนเพราะประมาทในความสามารถของศัตรู ทำงานด้วยความไม่ตั้งใจ ได้ลาภเพราะคุณงามความดีแต่เก่าก่อน แต่ท่านกลับไปนึกว่าเป็นเพราะเหตุอื่น มีการเดินทางที่ลำบาก
ราศีกันย์ เกิดตั้งแต่ 17 ก.ย.-16 ต.ค.
ท่านได้รับความลำบาก หรือ เดือดร้อนรำคาญก่อนแล้วจึงสบายภายหลัง ความฝันต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระยะนี้มีความหมายต่อท่าน ไม่ควรมองข้ามไป อุบายต่างๆ ของศัตรูเป็นเรื่องลึกซึ้ง
ราศีตุล เกิดตั้งแต่ 17 ต.ค.-15 พ.ย.
ท่านมีศัตรูที่ฝีปากดี แต่ท่านชนะได้เพราะความสุจริต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากทางไกลให้ผลดีต่อท่าน ไม่ควรใช้ห้องน้ำสาธารณะ หรือขึ้นลงที่สูงด้วยความรวดเร็ว โชคดีในเรื่องการเงิน
ราศีพิจิก เกิดตั้งแต่ 16 พ.ย.-15 ธ.ค.
ท่านได้ลาภจากผู้ที่อยู่ห่างไกล แต่ญาติมิตรที่จากกันไปนานจะไปมาหาสู่ เพื่อนรักจะเจ็บไข้ได้ป่วย การขึ้นลงในที่สูงอาจจะประสบอุบัติเหตุ ไม่ควรเอาเรื่องกับผู้ที่สูงอายุ ความเป็นอยู่ในบ้านสงบสุขดี
ราศีธนู เกิดตั้งแต่ 16 ธ.ค.-14 ม.ค.
ท่านจะซื้อเครื่องเรือนสวยๆ งามๆ เป็นอันมาก บางสิ่งก็มีราคาสูงเกินไป บริวารจะเที่ยวเตร่กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ จะมีข้อ ขัดแย้งระหว่างท่านกับผู้ใหญ่ บริวารทำกิจการด้วยความสามารถ
ราศีมังกร เกิดตั้งแต่ 15 ม.ค.-12 ก.พ.
ท่านจะมุมานะทำงานอย่างหนักหน่วง เพื่อให้ผู้ใหญ่หรือนายจ้างเห็นความสามารถในตัวท่าน ความดีของท่านอาจสูญเสียไป เพราะลมปากของผู้อื่น มีญาติมาเยี่ยมที่บ้าน
ราศีกุมภ์ เกิดตั้งแต่ 13 ก.พ.-14 มี.ค.
ท่านได้ลาภหรือได้รับเงินสดก้อนหนึ่งอย่างน่าพิศวง ได้ข่าวดีหรือ เครื่องมือสื่อสารอันทันสมัย ได้สิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ มาเป็นสมบัติโดยง่าย จะร่ำรวยขึ้นเป็นอันมาก
ราศีมีน เกิดตั้งแต่ 15 มี.ค.-12 เม.ย.
ท่านจะได้ลาภจากญาติมิตรที่เป็นเพศตรงข้าม ได้เอกสารหนังสือหรือคำบอกเล่าที่มีประโยชน์ จะได้ลาภเป็นเงินสดก้อนหนึ่ง แต่ถ้าเล่นการพนันจะแย่ การเดินทางโดยมีเครื่องประดับราคาแพงไม่ปลอดภัย
สลดหนุ่มลำปางหายจากบ้าน 1 เดือน พ่อแม่ตามหาวุ่น พบอีกทีเป็นศพผูกคอดับที่สุโขทัย

สลดหนุ่มลำปางหายจากบ้าน 1 เดือน พ่อแม่ตามหาวุ่น พบอีกทีเป็นศพผูกคอดับที่สุโขทัย


กรณีกลุ่มสังคมออนไลน์ในจ.ลำปาง ลำปางซิตี้ (Lampang city) ประกาศตามหาคนหาย คือ นายอนุพงษ์ ท่นด้วง หรือแบงค์ อายุ 27 ปี เป็นราษฎรบ้านเลขที่ 11 หมู่ 10 ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง หายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.61 ที่ผ่านมา พร้อมกับรถยนต์โตโยต้า ไมตี้เอ๊กซ์ สีน้ำเงิน ทะเบียน บพ 1778 ลำปาง ทางญาติจึงแจ้งความไว้ที่ สภ.เสริมงาม เพื่อขอความช่วยเหลือให้ตามหาตัว
กระทั่งล่าสุดทางกลุ่มลำปางซิตี้ แจ้งข่าวว่าพบตัวนายอนุพงษ์แล้ว โดยเมื่อวันที่ 14 พ.ค.61 เวลา 15.36 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบศพชายไทยผูกคอตายใต้ต้นมะม่วง บนเขา ม.1 ต.ดงคู่ อ.ศรีสัช หลังรับแจ้งต่อมาทาง ร.ต.อ.นิกร มงคลประดิษฐ์ รอง สว.(สอบสวน) ร.ต.อ.ชัยณรงค์ อุตบัววงศ์ รอง สวป.หน.สายตรวจดงคู่ สืบสวนเวร วิทยาการ แพทย์เวร กู้ภัยเทพนิมิตจุดอำเภอศรีสัชนาลัย กู้ภัย อบต.ดงคู่ ออกตรวจที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเขา ห่างจากทางถนนในหมู่บ้านประมาณ 1 กม. พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย ตอนแรกไม่ทราบชื่อ โดยสวมเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์สีดำ สภาพศพใช้เชือกผูกคอกับต้นไม้ใหญ่
สืบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตชื่อนายอนุพงษ์ ท่นด้วง หรือ แบงค์ อายุ 27 ปี ที่ญาติแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เสริมงาม จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 14 เม.ย.61 ที่ผ่านมา เบื้องต้นทราบว่านายอนุพงษ์เคยไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่มีอาการทางประสาท จึงกลับมาอยู่บ้านที่ อ.เสริมงาม ก่อนหายตัวไปได้ขับรถกระบะออกมา พ่อแม่ได้ห้ามไว้แล้วแต่ไม่ฟัง แล้วมีคนมาพบรถจอดอยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 17 เม.ย.61 แต่ไม่พบตัวคน กระทั่งผ่านไป 1 เดือน มาพบเป็นศพผูกคอตายที่ จ.สุโขทัยดังกล่าว ซึ่งสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่จะได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากประสานให้ญาติมารับศพกลับไปบ้านเกิดต่อไป
ฝนถล่มต่อเนื่อง! เตือน 13จังหวัดอีสานโดนอีก กทม.ลุ้น! ฝนตกร้อยละ 40

ฝนถล่มต่อเนื่อง! เตือน 13จังหวัดอีสานโดนอีก กทม.ลุ้น! ฝนตกร้อยละ 40


เมื่อวันที่ 15 พ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าว ยังคงมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 ของวันนี้ ถึงเวลา 06.00 น.ของวันที่ 16 พ.ค.นี้ ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
สังเวียนไก่กลายเป็นสังเวียนคน! ยกพวกตะลุมบอนกันยับ กลางเวทีไก่ชน

สังเวียนไก่กลายเป็นสังเวียนคน! ยกพวกตะลุมบอนกันยับ กลางเวทีไก่ชน


สมาชิกเฟซบุ๊ก “คนใต้ใจเต็ม” โพสต์คลิปสุดดุเดือดของสังเวียนไก่ชนแห่งหนึ่ง หลังเกิดความไม่พอใจอะไรบางอย่าง ก่อนที่ทั้ง 2 กลุ่มจะลงไปในสังเวียนไก่ แล้วชกต่อยกันชุลมุน ทำเอาแตกตื่นกันทั้งเวที ซึ่งก็มีคนเข้าไปพยายามห้ามปรามแต่ไม่เป็นผล บางคนถึงกับล้มลุกคลุกคลานไปกับพื้น เพราะนาทีนั้นต่างคนต่างร้อน ไม่มีใครยอมใคร ทำเอาไก่บินหนีกระเจิง
ขอบคุณเฟซบุ๊กเพจ คนใต้ใจเต็ม และ ข่าวสด
‘เบลล่า’พร้อมชี้แจงตร.ปมอาหารเสริม ตอบชัดหมอดูทักดวงจะฉาวกว่า‘โป๊ป’

‘เบลล่า’พร้อมชี้แจงตร.ปมอาหารเสริม ตอบชัดหมอดูทักดวงจะฉาวกว่า‘โป๊ป’


วันที่ 14 พ.ค. ‘เบลล่า-ราณี แคมเปน’ นางเอกชื่อดัง มาร่วมงานอีเวนต์ ที่ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก Be curve ที่ตนเป็นหุ้นส่วน โดยมี ‘มะปราง-วิรากานต์ เสณีตันติกุล’ ดาราสาวเป็นเจ้าของ ถึงเรื่องที่ถูกจับตาว่าเป็นสินค้าที่โฆษณาเกินจริง
โดย เบลล่า เผยว่า “สำหรับเรื่องนี้ต้องขอชี้แจงก่อน มีการสื่อสารออกมาหลายอย่างที่เป็นข้อมูลที่ผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน ตัวธุรกิจ Be curve ที่เป็นหุ้นส่วนกับมะปราง เริ่มต้นจากการที่บริษัทของมะปรางมีสินค้า เลยชวนเบลเข้ามาทำธุรกิจในส่วนของการจัดจำหน่าย มีการแบ่งงานอย่างชัดเจน ของเบลทำในเรื่องของการประชาสัมพันธ์สินค้า ส่วนมะปรางเป็นส่วนการบริหารจัดการธุรกิจ วางแผน รวมถึงการตลาดด้วยเขาจะเป็นคนดูตรงนี้ทั้งหมด เรามั่นใจมีพาทเนอร์ที่ดี ก่อนที่เราจะตกลงใจทำธุรกิจต้องดูก่อนว่ามี อย. จริง ทดลองสินค้าเองก่อนด้วยเพราะกลัวจะมีผลต่อผู้บริโภค และถ้าสินค้ามีปัญหาจริง เบลไม่กล้าทำตรงนี้ค่ะ เรายึดคุณภาพและอย.ถูกต้องตามกฏหมาย และเราอยากจะสร้างมาตรฐานให้สินค้า เราส่งสินค้าไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจสอบสารที่อยู่ในสินค้าเพื่อให้ยืนยันว่าถูกต้องจริงๆ”
มีเจ้าหน้าที่เรียกเราเข้าไปชี้แจงหรือยัง
“ถ้าในส่วนของเบลคือยังไม่มีเรียกเข้าไปพบหรืออะไร ตอนแรกที่เห็นข่าวก็แอบตกใจ แต่ส่วนตัวเบล คุณแม่หรือพี่พลอย ผู้จัดการส่วนตัว เราเช็กหมดแล้ว ว่าไม่มีการติดต่อเข้ามาเลยค่ะ และเราก็รีเช็กไปทางมะปรางว่ามีหรือเปล่า เขาได้ไปรับนัดอะไรหรือเปล่า มะปรางก็ยืนยันว่าไม่มีค่ะ”
คือสินค้าเรา ไม่โดนผลกระทบหลังมีข่าวแบรนด์อื่นโดนตรวจสอบคุณภาพใช่ไหม
“สำหรับตัวเบลเราไม่ได้กระทบ ณ จุดนั้น เพราะเรายืนยันว่าสินค้าสามารถตรวจสอบได้ทุกอย่างจริงๆ หรือแม้จะเป็นข่าวแชร์ลูกโซ่ คือเบลยืนยันว่าสินค้าเบลเป็นการขายขาด คือตัวแทนรับสินค้าไปร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่อทำการจัดจำหน่ายต่อไป ซึ่งทางนี้เบลก็ส่งไปทาง สคบ. ให้ สคบ. ตรวจสอบและยืนยันว่าธุรกิจเราเป็นธุรกิจขายขาด”
แล้วส่วนตัวแทนที่เอารูปเราไปโฆษณา แล้วมีใส่ข้อความเกินจริง
“ในส่วนโฆษณา เบลกับมะปราง ถ่ายทำโฆษณาไปและส่งไปให้ทางบริษัททำการตลาดต่อไป ซึ่งตรงนี้มะปรางดูแลต่อ และเท่าที่คุยกันเขาบอกว่ามีตัวแทนบางท่านมีการตัดต่อ ต่อเติม เพิ่มข้อความเข้าไป ทางบริษัทก็ทำการตักเตือนไปแล้ว เราไม่สนับสนุนให้มีการโฆษณาเกินจริงค่ะ ขอยืนยัน และขอบคุณเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงานที่ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี”
ถ้ามีเจ้าหน้าที่ขอให้เข้าไปแสดงความบริสุทธิ์ใจ
“เบลยินดีค่ะ ถ้ามีติดต่อเข้ามา เบลยินดีเต็มที่เลยค่ะ และยังขอยืนยันว่าทางเบล ทางคุณแม่ หรือผู้จัดการ ยังไม่มีติดต่อเข้ามาเลยค่ะ เรารีเช็กแล้ว ยังไม่มีการติดต่อมาจริงๆ แต่ถ้าทางเจ้าหน้าที่อยากจะให้เข้าไปชี้แจง เบลก็ยินดีค่ะ ส่วนที่ทางบริษัทและมะปรางเข้าไปแสดงความบริสุทธิ์ใจ คือเข้าไปทางด้าน อย. ปคบ. แล้วค่ะ”
“ในส่วนของเบล ไม่ได้กังวลอะไร วันนี้ได้ออกมาชี้แจงก็สบายใจมากขึ้น คืออยากให้ทุกคนเข้าใจในรูปแบบของธุรกิจด้วย เพราะเบลในเรื่องความถูกต้อง ความโปร่งใส ชัดเจนอยู่แล้ว ทุกธุรกิจทุกอย่างที่เราลงมือทำ เบลตั้งใจทำเต็มที่และอยากให้ทุกอย่างถูกต้องค่ะ”
หมอดูทักว่าเรามีดวงจะฉาวกว่า โป๊ป-ธนวรรธน์ อีก
“เบลมองว่าทุกอย่าง ทุกอาชีพมีอุปสรรค ในเรื่องนี้เบลไม่ได้มองแง่นั้น เบลมองว่าตอนนี้เราต้องร่วมกันตอบคำถามให้กับผู้บริโภคมากกว่า เพื่อต้องการรู้มาตรฐานของสินค้า และยืนยันว่าทำธุรกิจจริงใจ ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเดี๋ยวกรมวิทยาศาสตร์และการแพทย์ จะมาร่วมยืนยันว่าสินค้าปลอดภัย ซึ่งหลังจากนี้จะทำอะไรคงต้องตรวจสอบให้มากกว่านี้อีกค่ะ”
จร.เชียงใหม่ จับคาด่าน สาวทอม-หนุ่มคู่หู ตระเวนลักตู้บริจาคตามวัด

จร.เชียงใหม่ จับคาด่าน สาวทอม-หนุ่มคู่หู ตระเวนลักตู้บริจาคตามวัด



เมื่อเวลา 14.00 น วันที่ 14 พ.ค. ขณะที่ ร.ต.อ.ขันทพงษ์ ตามา รอง สว. จร.จว.เชียงใหม่ กำลังตั้งด่านบริเวณถนนวงแหวนรอบสอง หน้าหมู่บ้านธนาวัลย์ ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ พบเห็นชายหญิง

ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีแดงดำ ป้ายทะเบียนใช้สก๊อตเทปสีดำพันจนมิด ท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกให้หยุดตรวจสอบ ทราบชื่อต่อมาคือน.ส.ธนวรรณ ไชยต้นเทือก อายุ 27 ปี เป็นสาวทอม บ้านเดิมเลขที่ 28 หมู่ 4 ต.นาคู่ อ.นาแก จ.นครพนม และนายหม่ำ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี
ต่อมาร.ต.ท.พงศธร สุดอ่อน รองสว.(สอบสวน) สภ.แม่ปิง รับแจ้งจากทางวัดท่าหลุก ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่า มีสองชายหญิงโจรกรรมตู้รับบริจาคของวัดไป โดยในตู้มีเงินบริจาคอยู่จำนวนหนึ่ง จึงได้ประสานงานวิทยุไปยังศูนย์ 191 กระจายข่าวสกัดการจับกุม
ก่อนทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเชียงใหม่ สามารถสกัดจับกุมผู้ต้องสงสัยไว้ได้ก่อนหน้านั้นแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าตรงกับที่ทางวัดให้ โดยรูปพรรณสัณฐานและยานพาหนะของคนร้ายตรงกันกับน.ส.ธนวรรณและนายหม่ำ
สอบสวนทั้งคู่สารภาพว่าได้ไปโจรกรรมตู้บริจาคภายในวัดท่าหลุกจริง และได้ขับขี่รถหลบหนีออกมา โดยไปดูลาดเลาที่วัดแห่งนี้มาหลายครั้งแล้ว โดยตระเวนลักทรัพย์ตามวัดต่างๆ และตามบ้านหรู หากสบโอกาสก็จะเข้างัดแงะขโมยทรัพย์สิน เพื่อหาเงินไปเที่ยวเตร่ ส่วนที่นำสก๊อตเทปสีดำปิดแผ่นป้ายทะเบียน เพื่อป้องกันการจดจำและกล้องวงจรปิด แต่ก็มาเสียท่าเจอด่านตำรวจ กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
พายุถล่มบ้านพัง 16 หลัง ชาวบ้านหวิดตาย ชาวนาเครียด น้ำท่วมนาก่อนเกี่ยว 1 สัปดาห์

พายุถล่มบ้านพัง 16 หลัง ชาวบ้านหวิดตาย ชาวนาเครียด น้ำท่วมนาก่อนเกี่ยว 1 สัปดาห์


วันที่ 14 พ.ค. พ.อ.ประสิทธิพงษ์ มูลดี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.อุตรดิตถ์ พ.อ.สมัย ขำพันธ์ ผอ.รพ.ค่ายพิชัยดาบหัก พร้อมด้วยกำลังพลในสังกัดมณฑลทหารบกที่ 35 หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ เดินทางลงพื้นที่ ม.6 บ้านสักลาย ต.ข่อยสูง อ.ตรอน เพื่อสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือ มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบวาตภัย จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อวานนี้
นายณัทพงศ์ มงคลแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านสักลาย กล่าวว่า มีราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองทั้งสิ้น 16 ครัวเรือน เป็นบ้านเรือนที่พายุพัดหลังคาเปิด หรือต้นไม้โค่นทับพังเสียหาย จำนวน 7 หลัง และโรงรถอีก 9 หลัง ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งได้ประสานกับทางอบต. ข่อยสูง เข้ามาสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือแล้ว นอกจากนี้ได้ตั้งศูนย์อำนวยการรับแจ้งความเสียหายจากประชาชนเพิ่มเติมที่บริเวณอาคารเอนกประสงค์บ้านสักลายด้วย
ด้านนางทองสุข คุ้มสุวรรณ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นบ้านที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด กล่าวว่า มีพายุฝนรุนแรงตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.วานนี้ ตนซึ่งอาศัยอยู่กับลูกอายุ 18 ปี และหลานอายุ 6 ปี จึงรีบเข้าบ้านปิดประตู แต่เพียงไม่กี่นาทีลมก็พัดเอาหลังคาปลิวไปครึ่งหลัง จึงต้องพากันวิ่งหลบไปอยู่บ้านข้างๆ หลังจากมีประกาศเตือนว่าจะมีพายุฝนฟ้าคะนองก็ได้ซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยตอกตะปูให้มั่นคงแข็งแรงขึ้น แต่พายุมาแรงมาก แรงลมพัดไปทั้งโครงหลังคาที่เป็นไม้หลุดออกไปด้วย.
อ.สมัย กล่าวว่า ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 35 ได้สั่งการให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 20 โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก ระดมกำลังกว่า 50 นาย ออกประเมินความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชน โดยระยะเฉพาะหน้าจะต้องช่วยเหลือให้ประชาชนสามารถมีที่อยู่หลับนอนได้ และฉีดพ่นสารเคมีไล่ยุง แมลงและสัตว์มีพิษ ตัดต้นไม้ที่โค่นทับบ้านเรือน หรือโรงรถ พร้อมทั้งตรวจสุขภาพร่างกาย ภาวะความเครียดให้กับประชาชน
ส่วนที่ ม.7 บ้านทุ่งสวรรค์ ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล มีนาข้าวหลายแปลงถูกน้ำท่วมขัง โดย นายประสิทธิ์ สนอยู่ อายุ 67 ปี กล่าวว่า มีนาข้าว กข 49 จำนวนประมาณ 8 ไร่ ซึ่งอีก 1 สัปดาห์ ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวจำหน่ายได้ แต่มาถูกน้ำท่วมเมื่อวานนี้ จึงต้องเร่งสูบน้ำออกจากนาข้าวโดยด่วน ซึ่งขณะนี้ ที่นาที่อยู่ด้านบนสามารถระบายน้ำออกได้แล้ว แต่ที่อยู่ในที่ลุ่มยังเป็นห่วงว่าอาจจะได้รับความเสียหาย ซึ่งถ้าข้าวแห้งไม่ทัน ก็จะขายไม่ได้ราคา