หมัดเมา! ดวดเหล้าฉลองวันเกิด แต่เพื่อนเมาลวนลามแฟน โมโหต่อยเพื่อนตาย

หมัดเมา! ดวดเหล้าฉลองวันเกิด แต่เพื่อนเมาลวนลามแฟน โมโหต่อยเพื่อนตาย

ต่อยเพื่อนตาย – ดวดเหล้ากับเพื่อนรักฉลองวันเกิด แต่เมาไปลวนลามแฟนเพื่อน เลยถูกต่อยดับ ญาติผู้ตายเดือดหวิดประชาทัณฑ์ผู้ก่อเหตุ ตำรวจห้ามกันวุ่น
ต่อยเพื่อนตาย – เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 20 ก.ย. พ.ต.ท.ภานุภัทน์ จงอภิชัยกุล สว.สอบสวน สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รุดตรวจสอบ
สภาพที่เกิดเหตุ ที่นั่งดื่มสุรากัน
ที่เกิด อยู่บ้านเลขที่ 323 ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบร่างนายประมินทร์ วงศาวณิชกิจ อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่กลางบ้าน สภาพร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำ ข้างกันพบมีขวดเบียร์และสุราตั้งอยู่ และมีร่องรอยการต่อสู้ โดยมี นายนิมิตร กองอ่อน อายุ 42 ปี ผู้ก่อเหตุนั่งรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบสวน แฟนนายนิมิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ นายปรมินทร์ มานั่งดื่มสุราฉลองวันเกิดที่ห้อง แต่พอเริ่มเมา ได้มีทีท่าลวนลามใส่ นายนิมิตรเห็นจึงเกิดโมโห บันดาลโทสะชกต่อย จนนายปรมินทร์ล้มลงไปนอนแน่นิ่ง
สภาพร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกต่อยจนตาย
เบื้องต้นทาง สารวัตรสอบสวน ได้ตรวจสอบและบันทึกภาพที่เกิดเหตุ พร้อมยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของฝ่ายหญิง และเตรียมรวบรวมหลักฐานอีกครั้ง ทั้งนี้หลังญาติผู้ตายทราบเรื่อง ได้เดินทางมาดูศพผู้ตาย เมื่อทราบผู้ก่อเหตุเป็นใคร ได้พากันจะลงไม้ลงมือ ทำให้เจ้าหน้าที่ช่วยห้ามปราม เนื่องจากเกรงว่าผู้ก่อเหตุจะถูกประชาทัณฑ์
เตือน! ใครมีแหวนหนามหัวปลาโรนิน อาจถูกจับปรับ 4 หมื่น หากไม่แจ้งครอบครอง

เตือน! ใครมีแหวนหนามหัวปลาโรนิน อาจถูกจับปรับ 4 หมื่น หากไม่แจ้งครอบครอง


เตือน! ใครมีแหวนหนามหัวปลาโรนิน อาจถูกจับปรับ 4 หมื่น หากไม่แจ้งครอบครอง

เป็นโพสต์ที่ได้รับการแชร์อย่างหนัก โดยสมาชิกเฟซบุ๊ก Chalit Sa Nga Ngam ได้โพสต์ข้อมูลว่า ฝากประชาสัมพันธ์ครับ (ยินดีหากจะมีการแชร์ต่อเพื่อให้คนอื่นได้ทราบ ข้อความอาจจะยาวหน่อยนึง รบกวนอ่านให้ละเอียด ตรงไหนไม่กระจ่าง ถ้าชี้แจงได้จะชี้แจงให้ครับ ด่ามาไม่ด่ากลับครับ )
การรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราว ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้นำรูปภาพ หรือของจริง ไปแจ้งครอบครองที่สำนักงานประมงจังหวัด. แหวนหัวกระเบนท้องน้ำ. ที่มีขายทั่วไป เป็นส่วนหนามบนหัวปลาโรนิน ซึ่งปัจจุบันถูกประกาศ เป็นสัตว์คุ้มครองแล้ว หลัง 30 พ.ย.61 ถูกจับปรับ 40,000 บาท หากไม่มีหนังสือการครอบครอง
โดยเปิดรับแจ้งครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2561 ถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 และให้วันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 เป็นวันสุดท้ายของการรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราว
#เอกสารหลักฐาน..
1.บัตรประจำตัวประชาขนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้
2.ทะเบียนบ้านหรือสำเนาทะเบียนบ้าน
3.ซาก/ผลิตภัณฑ์หรือภาพถ่ายซากหรือผลิตภัณฑ์สัตว์สงวนที่ประสงค์จดแจ้ง
#แบบฟอร์ม https://www4.fisheries.go.th/…/fi…/20180720114517_1_file.PDF
#ในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถแจ้งได้ที่ กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมง เกษตรกลาง เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
#สำหรับในท้องที่จังหวัดอื่นๆ สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดในท้องที่นั้นๆ
ตร.บุกรวบ ‘หนุ่มขายบุหรี่ไฟฟ้า’ คาบ้าน! อ่วมคดีหนัก ‘ส่งสายลับ’ ส่องมานาน!

ตร.บุกรวบ ‘หนุ่มขายบุหรี่ไฟฟ้า’ คาบ้าน! อ่วมคดีหนัก ‘ส่งสายลับ’ ส่องมานาน!

ตร.บุกรวบ ‘หนุ่มขายบุหรี่ไฟฟ้า’ คาบ้าน! อ่วมหลายคดีหนัก เผยวินาที ‘ส่งสายลับ’ สืบเสาะจนจับได้!

รวบหนุ่มขายบุหรี่ไฟฟ้า / เมื่อวันที่ 20 ก.ย. เวลา 10.30 น. พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุม นาย เจษฎา พรหมใจ (ชื่อเล่นปอล) อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 ถ.กู่เต้า ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้คือ ตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2 ตัว,อะตอม 17 ตัว,น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 170 ขวด , เครื่องคอมพิวเตอร์ พีซีตั้งโต๊ะ จำนวน 1 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ HUAWEI 1 เครื่อง และซิมโทรศัพท์ทรู จำนวน 1 เครื่อง , อุปกรณ์ส่วนควบบุหรี่ไฟฟ้า , สมุดบัญชีธนาคารกสิการไทย จำนวน 1 เล่ม
โดยตำรวจ ได้นำตัวดำเนินคดี ฐาน ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย พาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของ อันตน รู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียภาษีหรือของต้องจำกัดหรือของต้องห้าม หรือ ที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องก็ดี ถือเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวแก่ของนั้น ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องสินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักรพ.ศ.2559 ข้อ 3
และเรื่อง กำหนด ให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักรพ.ศ.2557 ข้อ 4 และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 เรื่องห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้าบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าหรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาตและผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับ  เพื่อประสงค์ขอรับสินบนนำจับ ได้แจ้งว่ามี เฟสบุ๊กชื่อ ชมรมบุหรี่ไฟฟ้าเชียงใหม่ Chaing-Mai EC Group มีการชักชวนจำหน่ายโฆษณา จำหน่ายบุหรี่ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้เป็นส่วนประกอบบุหรี่ไฟฟ้า
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบ เฟสบุ๊กดังกล่าวและได้พบว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้เป็นส่วนประกอบบุหรี่ไฟฟ้าจริง โดยมี บุคคลที่ใช้ชื่อว่า Jetsada Promjai ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง(ทราบชื่อจริงภายหลังว่า นาย เจษฎา พรหมใจ (ชื่อเล่นปอล) อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามตรวจสอบจึงได้รายงานให้แก่ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น
ต่อมาเมื่อวันทื่ 19 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบสวนจับกุมการกระทำความผิดในพื้นที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ดำเนินการสืบสวนจนทราบว่า นาย เจษฎา พรหมใจ ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 102 ม.00 ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ได้มีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้เป็นส่วนประกอบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามในราชอาณาจักรหรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านเลขที่ดังกล่าว จึงได้ขออำนาจศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอหมายค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว โดยมีนาย เจษฎาฯ เป็นผู้นำในการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางในห้องนอนชั้นที่ 2 ของบ้านหลังดังกล่าว
ซึ่งอยู่ภายในบ้านดังกล่าวนายเจษฎา ได้ใช้ในการซื้อขายสินค้าผ่านทางออนไลน์โฆษณา จำหน่ายบุหรี่ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้เป็นส่วนประกอบบุหรี่ไฟฟ้า โดย นาย เจษา พรหมใจ ได้รับว่า ใช้ชื่อ และรหัสอีเมลสมัคร ชื่อเฟสบุ๊กว่า Jetsada Promjai ชื่อเฟสบุ๊ก Hemen Vape ซึ่งทั้ง 2 เฟสเป็นช่องทางจำหน่ายให้แก่บุคคลต่างๆ ที่ใช้ติดต่อสินค้ากับผู้สั่งซื้อสินค้า ซึ่งจากการตรวจค้นได้พบของกลางดังกล่าวทั้งหมด
เบื้องต้น นายเจษฎา รับว่าเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ส่วนประกอบเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า เป็นของตนเองจริง ซึ่งได้กระทำการขายผ่านเฟสบุ๊กดังกล่าวมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 6 เดือนจนถึงปัจจุบันและทำการจัดส่งสินค้านัดรับได้แถวราชภัฏ สนามกีฬาเทศบาล ดิฟเฟ่อ ท่าช้าง และส่งผ่านทางไปรษณีย์ โดยลูกค้าจะชำระเงินผ่านทางธนาคารในชื่อ นาย เจษฎา พรหมใจ บัญชี ธนาคารกสิกรไทย แต่่มาถูกเจ้าหน้าที่่ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมตัวดังกล่าว
ภายหลังจากการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.5, จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ก่อนทำการจับกุมตัวนายเจษฎา พรหมใจ นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เพื่อดำเนินคดีต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวกับ : “บุหรี่ไฟฟ้า”
เผยข้อมูลแนวโน้ม 11 จังหวัดอีสาน มีแนวโน้มท่วม-แล้งรุนแรง วิศวะฯ มธ.ชี้ไทยยังขาดแคลนบุคลากรด้านชลศาสตร์

เผยข้อมูลแนวโน้ม 11 จังหวัดอีสาน มีแนวโน้มท่วม-แล้งรุนแรง วิศวะฯ มธ.ชี้ไทยยังขาดแคลนบุคลากรด้านชลศาสตร์


วิศวะฯ ธรรมศาสตร์ เผยข้อมูลแนวโน้ม 11 จังหวัดภาคอีสาน มีแนวโน้มท่วม-แล้งรุนแรง ชี้ไทยยังขาดแคลนบุคลากรด้านชลศาสตร์ ซึ่งมีความจำเป็นในการบริหารจัดการน้ำของประเทศ
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE) เปิดสถิติปริมาณฝนของไทยย้อนหลัง 60 ปี วิเคราะห์ผลและสร้างแบบจำลองคาดการณ์สภาพอากาศ พบ 11 จังหวัด ในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง ชี มูล ที่มีแนวโน้มเกิดภัยพิบัติจากฝน-แล้งรุนแรงขึ้นในอนาคต โดยมีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก 6 จังหวัด ได้แก่ เลย อุดรธานี สกลนคร นครพนม ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี และพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งซ้ำซาก 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา และสุรินทร์
ศาสตราจารย์ ดร.ชวลิต ชาลีรักษ์ตระกูล อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE) กล่าวว่า จากผลงานวิจัยเพื่อประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ลุ่มน้ำโขง ชี และมูล) โดยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลฝนระดับสถานีจากกรมอุตุนิยมวิทยาของไทย กับข้อมูลภูมิอากาศระดับโลกของแบบจำลองการหมุนเวียนอากาศจากประเทศอังกฤษ แคนาดา ซึ่งผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่ามีข้อมูลภูมิอากาศที่มีความสำคัญในการพยากรณ์ฝน ได้แก่ ปริมาณน้ำฝน ค่าความกดอากาศที่ระดับน้ำทะเลปานกลาง ความแรงของการไหลเวียนอากาศ ทิศทางลม ความชื้นในอากาศ โดยแบบจำลองความสัมพันธ์นี้ สามารถใช้ในการวิเคราะห์จังหวัดที่มีแนวโน้มจะประสบปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งซ้ำซากได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเตรียมรับมือภัยพิบัติในอนาคต
ทั้งนี้จากงานวิจัยดังกล่าวพบข้อมูล พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก 6 จังหวัด ได้แก่ เลย อุดรธานี สกลนคร นครพนม ร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี โดยแบ่งเป็นพื้นที่สีแดงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังการเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ที่มีแนวโน้มทวีรุนแรงมากขึ้นในอนาคต ส่วนมากจะอยู่บริเวณตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ ลุ่มแม่น้ำโขง รองลงมาเป็นพื้นที่สีส้ม ในลุ่มแม่น้ำมูล และพื้นที่สีเหลืองที่เกือบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลง และพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งซ้ำซาก 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา และสุรินทร์ ประกอบไปด้วยพื้นสีแดง เป็นพื้นที่เฝ้าระวังการเกิดภัยแล้งรุนแรงขึ้นในอนาคต ส่วนมากจะกระจุกตัวบริเวณตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในลุ่มแม่น้ำชี และบางส่วนของทางตะวันออกของภาค รองลงมาคือพื้นที่สีส้ม ในลุ่มแม่น้ำมูล และแม่น้ำโขง และพื้นที่สีเหลืองที่เกือบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงการวิเคราะห์เชิงสถิติจากการบันทึกข้อมูลสภาพอากาศและปริมาณน้ำฝนย้อนหลังเท่านั้น ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความแตกตื่น แต่การศึกษาในครั้งนี้จะมีประโยชน์สำหรับการเตรียมรับมือกับอุทกภัยและภัยแล้งที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ โดยงานวิจัยชิ้นนี้ ยังสามารถคาดการณ์สถานการณ์น้ำฝนล่วงหน้าในอนาคตได้
ศาสตราจารย์ ดร.ชวลิต กล่าวต่อว่า ในแต่ละปีไทยจะสามารถผลิตบัณฑิตด้านวิศวกรรมโยธาได้จำนวนมาก แต่กลับมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่มุ่งสู่อาชีพด้านชลศาสตร์ กลายเป็นอาชีพที่ไทยยังขาดแคลน และยังส่งผลต่อการบริหารจัดการน้ำของประเทศ จึงเป็นหน้าที่ของสถาบันการศึกษา ที่จะต้องเร่งปั้นนักศึกษาของตนให้เชี่ยวชาญ และสร้างแรงบันดาลใจให้อยากจบออกไปทำงานด้านการบริหารจัดการน้ำมากขึ้น ซึ่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และต้องการให้นักศึกษาวิศวกรรมโยธาทุกคนได้ตระหนักถึงความจำเป็นของการทำงานในด้านนี้เช่นเดียวกัน”
ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.ธีร เจียศิริพงษ์กุล คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE) กล่าวว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มุ่งมั่นในการสร้างบุคลากรด้านวิศวกรพันธุ์ใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญศาสตร์ที่ผสมผสาน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ ซึ่งที่ผ่านได้พัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านวิศวกรรมในสาขาต่างๆ จนเป็นที่ยอมรับของสังคมตลอดมา เพื่อตอบยุทธศาสตร์ประเทศ รวมถึงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้พร้อมสู่ศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ปัจจุบัน คณะฯมีหลักสูตร วิศวกรรมศาสตร์ทั้งหลักสูตรภาษาไทยและนานาชาติ จำนวนมาก ร่วมถึงมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา และภาคเอกชนชั้นนำทั่วโลก อย่างไรก็ตามเร็วๆ นี้ คณะฯ กำหนดเปิดตัวการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี ที่จะพลิกโฉมหลักสูตรวิศวกรรมในประเทศไทยให้สอดรับกับความต้องการของโลกอย่างแท้จริง
สงครามการค้า : สหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีใหม่ต่อสินค้าจีนมูลค่า 6.5 ล้านล้านบาท

สงครามการค้า : สหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีใหม่ต่อสินค้าจีนมูลค่า 6.5 ล้านล้านบาท

ข้าวเป็นหนึ่งในรายการสินค้าที่ถูกสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีรอบล่าสุด / Getty Images


สงครามการค้า : สหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีใหม่ต่อสินค้าจีนมูลค่า 6.5 ล้านล้านบาท – BBCไทย

สงครามการค้า ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยสหรัฐฯ กำลังตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้าจีนรอบใหม่มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท
มีสินค้าเกือบ 6,000 รายการที่ได้รับผลกระทบจากการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ถือเป็นกำแพงภาษีกับสินค้ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมาของสหรัฐฯ
กระเป๋าถือ, ข้าว และสิ่งทอ รวมอยู่ในรายการสินค้าเหล่านั้น แต่สินค้าบางรายการที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่าง นาฬิกาอัจฉริยะ และเก้าอี้ขายาวสำหรับเด็ก ยังไม่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้
กระทรวงพาณิชย์ของจีน ระบุว่า จีนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการตอบโต้คืน แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร
การตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ 24 ก.ย. นี้ เริ่มเก็บจาก 10% และเพิ่มเป็น 25% ในช่วงปีหน้า เว้นแต่ว่าทั้งสองประเทศจะเจรจากันได้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ระบุว่า กำแพงภาษีรอบใหม่ เป็นการตั้งขึ้นเพื่อตอบโต้กับ “การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม” ของจีน
“เราชัดเจนมาโดยตลอดเกี่ยวกับรูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่จะต้องเกิดขึ้น เราให้โอกาสจีนแล้วในการปฏิบัติต่อเราอย่างเป็นธรรมมากขึ้น แต่จนถึงปัจจุบัน จีนก็ไม่ยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำการค้าของจีน” เขากล่าว
นายทรัปม์ ยังเตือนว่า ถ้าจีนตอบโต้ สหรัฐฯ จะบังคับใช้กำแพงภาษีต่อสินค้าของจีนเพิ่มขึ้นอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8.7 ล้านล้านบาท
นั่นหมายความว่า สินค้าเกือบทุกอย่างของจีนที่ส่งออกมายังสหรัฐฯ จะถูกเก็บภาษีนำเข้า

สหรัฐฯ บังคับใช้กำแพงภาษีแล้วหรือยัง?

ใช้แล้ว อันที่จริง กำแพงภาษีรอบล่าสุดเป็นกำแพงภาษีรอบที่ 3 ที่มีผลบังคับใช้ในปีนี้
ในเดือนก.ค. รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มภาษีในสินค้าของจีนรวมมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.1 ล้านล้านบาท จากนั้นในเดือนที่แล้ว สงครามสหรัฐฯ ได้ทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อสหรัฐฯ เก็บภาษี 25% จากการตั้งกำแพงภาษีรอบที่ 2 ต่อสินค้าของจีนรวมมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 5.2 แสนล้านบาท
สงครามการค้า
BBC

การบังคับใช้กำแพงภาษีรอบล่าสุดทำให้สินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากจีน ราวครึ่งหนึ่งถูกเก็บภาษีนำเข้า นอกจากนี้ยังเป็นกำแพงภาษีครั้งใหญ่สุดเท่าที่สหรัฐฯ เคยใช้มาอีกด้วย กำแพงภาษีรอบนี้ต่างจากรอบก่อนหน้านี้ โดยมีการตั้งเป้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค อย่างเช่น กระเป๋าเดินทาง และเฟอร์นิเจอร์
นั่นหมายความว่า ผู้บริโภคในครัวเรือนจะเริ่มรับรู้ถึงผลกระทบจากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น
บริษัทต่าง ๆ ของสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นในการทำธุรกิจ และเตือนว่าอาจจะทำให้การจ้างงานลดต่ำลง
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า กำแพงภาษีแทบจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ พวกเขาเตือนว่า เป็นการยากที่จะทำนายผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
สินค้าใดบ้างที่ถูกเก็บภาษีนำเข้า?
เจ้าหน้าที่ทางการ ระบุว่า พวกเขาต้องการปกป้องสินค้าอุปโภคบริโภคจากการเรียกเก็บภาษีนำเข้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันจำนวนมาก อย่างกระเป๋าเดินทาง, กระเป๋าถือ, กระดาษชำระ และขนสัตว์ ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในรอบล่าสุดด้วย
นอกจากนี้ยังรวมถึงอาหารหลายรายการ ตั้งแต่เนื้อแช่แข็ง ไปจนถึงปลาเกือบทุกชนิด รวมถึงปลาแม็กเคอเรลรมควัน, หอยเชลล์ และถั่วเหลือง ผลไม้หลายชนิด, ธัญพืช และข้าว

ทำไมนาฬิกาอัจฉริยะและเก้าอี้ขายาวสำหรับเด็กถึงได้รับการยกเว้น?

นาฬิกาแอปเปิล
Getty Images
นาฬิกาแอปเปิลเป็นหนึ่งในสินค้าที่ยังไม่ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า
บัญชีรายการสินค้าที่จะถูกเก็บภาษีนำเข้าในตอนแรกมีสินค้ามากกว่า 6,000 รายการ แต่เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ ได้นำออกจากบัญชีราว 300 รายการ รวมถึง นาฬิกาอัจฉริยะ, หมวกนิรภัยจักรยาน, เปล-คอกกั้นเด็ก, เก้าอี้ขายาวสำหรับเด็ก และที่นั่งในรถยนต์สำหรับเด็ก
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้น หลังจากที่มีการคัดค้านอย่างหนักจากบริษัทในสหรัฐฯ หลายแห่ง รวมถึงแอปเปิล และเดลล์ ซึ่งเกรงว่า กำแพงภาษีนี้จะทำให้ต้นทุนของบริษัทเพิ่มขึ้น เพราะสินค้าจำนวนมากของพวกเขาผลิตขึ้นในจีน
ก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ แอปเปิลได้เขียนจดหมายไปถึงโรเบิร์ต ไลต์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โดยเตือนว่า ข้อเสนอตั้งกำแพงภาษีจะทำให้ผู้บริโภคจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นในการซื้อสินค้าของทางบริษัท
จากนั้น นายทรัมป์ ได้ตอบด้วยการทวีตข้อความเรียกร้องไปยังแอปเปิลว่า: “ผลิตสินค้าของคุณในสหรัฐฯ แทนที่จะผลิตในจีน”

ทำไมสหรัฐฯ ทำเช่นนี้?

ทำเนียบขาวระบุว่า กำแพงภาษีที่สหรัฐฯ ตั้งขึ้น เป็นการตอบโต้นโยบายการค้า “ที่ไม่เป็นธรรม” ของจีน
ตามทฤษฎีแล้ว การตั้งกำแพงภาษีจะทำให้สินค้าที่ผลิตในสหรัฐฯ มีราคาถูกกว่าสินค้าที่นำเข้า ทำให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นธุรกิจในประเทศและช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ
เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ หวังว่า ความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ จะช่วยทำให้รัฐบาลจีนเปลี่ยนแปลงนโยบายของตัวเอง
คาริชมา วาสวานี ผู้สื่อข่าวธุรกิจเอเชียของบีบีซี กล่าวว่า สงครามการค้าที่รุนแรงขึ้นระหว่าง 2 ประเทศนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความไม่เข้าใจจุดยืนของกันและกัน
“หากพิจารณาในมุมองของฝ่ายตรงข้าม รัฐบาลสหรัฐฯ และจีน ต่างมีปัญหาของตัวเอง สงครามการค้านี้ ไม่น่าจะช่วยทำให้อะไรดีขึ้น แต่ยิ่งจะทำให้เลวร้ายลงสำหรับพวกเขาเอง หรือสำหรับพวกเราด้วย”
ธุรกิจของสหรัฐฯ จำนวนมาก ต่อต้านกำแพงภาษี โดยเกษตรกร, ผู้ผลิต, ผู้ค้าปลีก และกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ หลายกลุ่ม ได้จัดตั้ง แนวร่วมต่อต้านกำแพงภาษีขึ้น และเรียกว่า การตั้งกำแพงภาษีเป็นการเก็บภาษีชาวอเมริกันเอง

จีนตอบโต้อย่างไรแล้วบ้าง?

ก่อนหน้านี้ จีนได้ตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้าของสหรัฐฯ มูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.63 ล้านล้านบาท เป็นการตอบโต้ โดยพุ่งเป้าไปที่สินค้าที่อยู่ในกลุ่มที่เป็นฐานเสียงทางการเมืองสำคัญของประธานาธิบดีทรัมป์ อย่าง เกษตรกร
รัฐบาลจีน วางแผนจะบังคับใช้กำแพงภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้าของสหรัฐฯ อีกมูลค่ารวม 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.95 ล้านล้านบาท และขู่ว่าจะใช้มาตรการอื่น ๆ อีกด้วย
แผนภาพ
BBC

ทั้งสองฝ่ายเจรจากันอยู่หรือไม่?

ไม่เชิง การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่ายยุติลงในเดือนพ.ค. โดยไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และความพยายามในการจัดการหารือกันต่อก็ล้มเหลว
เจ้าหน้าที่ทางการของสหรัฐฯ และจีน ได้หารือกันถึงการเจรจารอบใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว แต่การดำเนินการล่าสุดของนายทรัมป์น่าจะทำให้ความสัมพันธ์ย่ำแย่ลงไปอีก
มีรายงานว่า จีนเคยบอกไว้ว่า จะปฏิเสธการเจรจารอบใหม่ ถ้าประธานาธิบดีสหรัฐฯ บังคับใช้กำแพงภาษีต่อสินค้าส่งออกของจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 6.5 ล้านล้านบาท
นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจีนในการดำเนินการขั้นต่อไปเพื่อจัดการเจรจา: “คำถามที่ว่าจะมีการเจรจาขึ้นหรือไม่ หรือมีเมื่อไหร่ มีความสำคัญมากในสนามของจีน”

โดนัลด์ ทรัมป์
Reuters
บทวิเคราะห์แอนดรูว์ วอล์กเกอร์ ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจของบีบีซี
เป้าหมายที่ประธานาธิบดีทรัมป์ทำเช่นนี้ต่อจีน คือการแก้ปัญหาสิ่งที่เขาเรียกว่า หัวขโมยเทคโนโลยีบริษัทอเมริกัน แต่มันก็ทำให้เกิดความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ
เขาเห็นว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะมันเป็นผลมาจากข้อตกลงทางการค้าที่แย่ และการค้าที่ไม่เป็นธรรมที่เกิดจากประเทศอื่น
ปัญหาคือ การขาดดุลการค้าโดยทั่วไปถูกมองว่า เกิดขึ้นจากการออมและการลงทุน มากกว่านโยบายการค้า ประเทศที่ใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่หามาได้ ก็ย่อมขาดดุลการค้า
นโยบายอื่น ๆ ของประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึง การลดภาษี ที่จะทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเท่ากับว่า ทำให้เงินออมของประเทศลดลง และอาจทำให้ขาดดุลการค้ามากขึ้น
สิ่งที่นายทรัมป์หวังก็คือ การตัดลดภาษีจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นจนทำให้มีรายได้มากขึ้น และ “หักกลับไปภาษีที่ลดไปได้เอง” ซึ่งนั่นคือ เรื่องที่มีการถกเถียงกันอีกเรื่องหนึ่งในทางเศรษฐกิจ
ทิ้งหมัดเข้ามุม : ทำไมถึงน่าละอาย

ทิ้งหมัดเข้ามุม : ทำไมถึงน่าละอาย

ทิ้งหมัดเข้ามุม : ทำไมถึงน่าละอาย

“รุก กลางกระดาน”
ดาหน้าตอบโต้กันเป็นจังหวะจะโคน สำหรับประเด็นที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น จัดให้ไทยเป็น 1 ใน 38 ประเทศ ที่น่าละอาย
โดยทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงคสช.เอง ก็ออกมาตอบโต้กันยกใหญ่
โดยหลักใหญ่ใจความก็คือยืนยันว่าไทยไม่มีนโยบายหรือเจตนาคุกคามข่มขู่ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน
รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองและปกป้อง และทำมาตรการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน
ให้มีความปลอดภัยสามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติงานได้อย่างดีด้วยซ้ำ
จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง จะต้องยก 3 ตัวอย่าง ที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น ทั้งกรณีนายไมตรี จำเริญสุขสกุล นักปกป้องสิทธิชนพื้นที่เมืองลาหู่
น.ส.ศิริกาญจน์ เจริญศิริ หรือ ทนายจูน จากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน
รวมถึงกรณีนักสิทธิมนุษยชนจากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ที่เผยแพร่รายงานการ ซ้อมทรมาน 54 กรณี ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
มาพิจารณาว่าได้รับการคุ้มครองจาก เจ้าหน้าที่รัฐอย่างไร!??
โดยนายไมตรี เป็นผู้ที่เรียกร้องความ เป็นธรรมกรณีการเสียชีวิตของนายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ ที่ถูกทหารยิง เสียชีวิตคาด่านตรวจบ้านรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
แต่ระหว่างการเรียกร้องความเป็นธรรม เกิดกรณีเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นและจับกุมสมาชิกในครอบครัว พร้อมตั้งข้อหามี ยาเสพติดไว้ในครอบครอง
ส่วนกรณีชัยภูมิ เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล แต่กล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานสำคัญ ที่ทั้งผบ.ทบ. และแม่ทัพภาค 3 ยืนยันว่าได้ดูหมดแล้ว
กลับหายไป
ถัดมากรณีของทนายจูน ที่เป็นทนายให้กับ 14 นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่
แต่กลับถูกตั้งข้อหาให้การเท็จ ข้อหาปลุกปั่นตามกฎหมายอาญา มาตรา 116 และฝ่าฝืนคำสั่งคสช.
ส่วนนักวิชาการจากภาคใต้ แทนที่จะได้รับความชื่นชมในการเปิดเผยสิ่งที่ไม่ดี กลับถูกฟ้องร้องดำเนินคดีกราวรูด อีกทั้งมีการข่มขู่คุกคาม
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
ไม่นับกับการจับกุมคุมขัง หรือดำเนินคดีกับผู้เห็นต่างอื่นๆ อีก
จึงไม่แปลกใจที่เขาจะเห็นว่า ‘น่าละอาย’
100 ชีวิตวิ่งหนีตาย พายุซัดถล่มเกาะห้อง ต้นไม้หักโค่น ล้มระเนระนาด

100 ชีวิตวิ่งหนีตาย พายุซัดถล่มเกาะห้อง ต้นไม้หักโค่น ล้มระเนระนาด

วันที่ 18 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกาะห้อง เขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เกิดลมพายุรุนแรงเป็นเวลาร่วม 10 นาที ทำให้กิ่งไม้และต้นไม้ ถูกลมพัดหักโค่นลงมาหลายจุด โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวบนเกาะเกือบ 100 ชีวิต และลงเล่นน้ำอยู่ในทะเล ต้องวิ่งหนีคลื่นลมขึ้นมาหลบบนฝั่งกันจ้าละหวั่น เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ต้องออกแจ้งเตือนเรือทัวร์ ให้นำนักท่องเที่ยวหลบขึ้นฝั่งทันที
จากสถานการณ์คลื่นลมในทะเล ยังคงมีกำลังแรง ด้าน พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกประกาศให้นักท่องเที่ยวเพิ่มความระมัดระวังในการออกท่องทะเล รวมทั้งให้ตรวจสอบป้ายโฆษณาต่างๆ ในพื้นที่ หากพบจุดใดชำรุดให้ประสานเจ้าของเร่งซ่อมแซม หรือนำลงทันที นอกจากนี้ให้ทางแขวงการทาง จ.กระบี่ สำรวจต้นไม้ข้างทาง หากพบจุดใดมีต้นไม้ที่เสี่ยงจะโค่นล้ม ให้ดำเนินการตัดแต่งป้องกันไว้ก่อน
ขณะที่ทหารจากค่าย ร.15 พัน 1 อ.คลองท่อม ส่งชุดปฏิบัติการ ออกให้การช่วยเหลือราษฎรที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากฤทธิ์ลมพายุพัด โดยหลายจุดมีต้นไม้หักโค่นลงมาปิดเส้นทาง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเคลียร์เส้นทางให้รถสามารถสัญจรได้ทันที
ยี่ปั๊วแจ้งความ! พีท 90 ล้าน ค้างค่าหวยอยู่ 2 แสน ลั่นต้องได้ลอตเตอรี่คืน

ยี่ปั๊วแจ้งความ! พีท 90 ล้าน ค้างค่าหวยอยู่ 2 แสน ลั่นต้องได้ลอตเตอรี่คืน


ยี่ปั๊วแจ้งความ!
ยี่ปั๊วแจ้งความ พีท ค้างค่าหวยเป็นแสน

ยี่ปั๊วแจ้งความ! พีท 90 ล้าน ค้างค่าหวยอยู่ 2 แสน ลั่นต้องได้ลอตเตอรี่คืน

ยี่ปั๊วแจ้งความ! เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 8 ก.ย. ที่ สภ.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นางบุญเรือง ดอนกระโทก ยี่ปั๊วหรือเจ้าของแผงลอตเตอรี่รายใหญ่สี่แยกคอกวัน กรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ต่อพนักงานสอบสวนฯ เนื่องจากนายธนวรรธน์ หรือ พีท คำแหงพล ได้ติดค้างค่าลอตเตอรี่ไว้จำนวน 210,000 บาท
นางบุญเรือง ยี่ปั๊วสี่แยกคอกวัว กล่าวว่า ตนเองได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน เนื่องจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 ก.ย. เวลาประมาณ 05.30 น. นายพีทได้เดินทางไปซื้อลอตเตอรี่ที่แผงของตน โดยไปเอามาประมาณ 140 ชุด แต่ยังไม่ได้จ่ายเงินเป็นยอด 210,000 บาท
ซึ่งตนได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.ชนะสงคราม จากนั้นก็มาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.โคกขามอีก ซึ่งตนก็ไม่ได้หวังว่าจะได้เงินคืน แต่ต้องการลอตเตอรี่ทั้งหมดคืน
นางบุญเรือง กล่าวอีกว่า ปกตินายพีทจะไปซื้อหวยแถวสี่แยกคอกวันเป็นประจำ โดยในแต่ละครั้งก็จะไปซื้อหลายแผงด้วยกัน แบบไม่เลือกเลข ส่วนเงินค่าลอตเตอรี่นั้นก็จะนำมาจ่ายทีหลัง ซึ่งที่ผ่านมาก็จ่ายเงินครบหมดไม่เคยติดค้าง จนมางวดนี้ได้เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน
เย็นนี้ลุ้นอีก! ฝนตก ซัดเหนือ-อีสานยาวๆ เตือนลมแรง-ท่วมฉับพลัน คนกรุงไม่รอด

เย็นนี้ลุ้นอีก! ฝนตก ซัดเหนือ-อีสานยาวๆ เตือนลมแรง-ท่วมฉับพลัน คนกรุงไม่รอด

เย็นนี้ลุ้นอีก! ฝนตก ซัดเหนือ-อีสานยาวๆ เตือนลมแรง-ท่วมฉับพลัน คนกรุงไม่รอดขฝนตก ต่อเนื่อง ซัดเหนือ-อีสาน ยาวถึงสัปดาห์หน้า กรมอุตุฯ เตือน ลมกรรโชกแรง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก คนกรุงไม่รอด วันนี้ยังต้องลุ้นช่วงบ่ายเป็นต้นไป เตือนชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนภาคอื่นๆยังคงมีฝนน้อย

ฝนตก เพิ่มขึ้นถึงสัปดาห์หน้า

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7-10 กันยายน 2561บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ทำให้ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในระยะแรก โดยเฉพาะในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับมีฝนตกหนักบางแห่งเกิดขึ้นได้ในทุกภาคของประเทศไทย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงปกคลุมถึงประเทศจีนตอนกลางแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนใต้ในเช้าวันนี้ ซึ่งจะทำให้แนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศเวียดนามตอนบน จะเลื่อนลงมาปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคอื่นจะได้ผลกระทบในระยะต่อไป

ฝนตก ซัดเหนือ-อีสาน

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันนี้ ถึงเวลา 06.00 ของวันที่ 8 ก.ย.นี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมี ฝนตกหนัก และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมี ฝนตก หนัก และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม และสกลนคร อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี และนครสวรรค์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม
ชนแล้วหนี หนุ่มซิ่งป้ายแดง อัดคุณลุงขายของตลาดนัด ร่างกระเด็นกองกับพื้นดับ

ชนแล้วหนี หนุ่มซิ่งป้ายแดง อัดคุณลุงขายของตลาดนัด ร่างกระเด็นกองกับพื้นดับ


ชนแล้วหนี หนุ่มซิ่งป้ายแดง อัดคุณลุงขายของตลาดนัด ร่างกระเด็นกองกับพื้นดับ

ชนแล้วหนี – เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 6 ก.ย. หน่วยกู้ภัยศีลธรรมบ้านบึง จุดบ่อวิน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.บ่อวิน มีรถยนต์พุ่งชนคนขี่รถจยย. จนร่างกระเด็นตกพื้นถนนอาการสาหัส แถมยังลากเอารถจยย.ไปห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร บริเวณถนนสายปากร่วม-สะพานสี่ หมู่ 3 ตำบลบ่อวิน อ.ศรีราชา จึงรุดไปช่วยเหลือผู้เจ็บก่อนนำส่งโรงพยาบาล
ที่เกิดเหตุพบ นายชำนาญ พูลสวัสดิ์ อายุ 59 ปี ประกอบอาชีพขายของชำตามตลาดนัด นอนหงาย ที่ศีรษะมีบาดแผลขนาดใหญ่ มีเลือดไหลนองเต็มพื้นถนน
สภาพร่าง ลุงชำนาญ ที่ถูกเก๋งตีนผีชนแล้วหนี
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถที่ชนเป็นเก๋งสีดำป้ายแดง ออกมาจากซอยข้างวัดห้วยปราบ ส่วนลุงชำนาญ ขี่จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีแดง-ดำ ทะเบียน ขลว-396 ระยอง สวนมาก่อนถูกรถเก๋งชนอย่างแรง จนร่างกระเด็นตกลงมาที่กระจกรถ และหล่นลงพื้นถนน ขณะที่รถเก๋งได้ขับหนีไปอย่างรวดเร็ว

ตำรวจไล่ล่าเก๋งตีนผี คุณลุงหัวใจหยุดเต้นขณะนำส่งโรงพยาบาล

หลังเกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อวิน ผ่านมาพบ จึงรีบขี่รถสายตรวจตามรถเก๋งที่ก่อเหตุ จนรถคันดังกล่าวติดหล่มไร้ทางหนี ห่างจุดเกิดเหตุ 3 กิโลเมตร พร้อมรถยนต์ มาสด้า 2 ทะเบียนป้ายแดง ก-1361 สุรินทร์ ทราบชื่อผู้ขับคือ นายศักดา ชนะชัย อายุ 33 ปี ประกอบอาชีพ หนุ่มโรงงานนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง โดยตำรวจได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามล่า จนมุมในที่สุด
ด้านลุงชำนาญ หลังเกิดเหตุถูกรถชน เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ ก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง อย่างไรก็ตาม ระหว่างทางไปโรงพยาบาล ชีพจรลุงชำนาญ หยุดเต้นฉับพลัน เจ้าหน้าที่พยายามทำ CPR แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ลูกศิษย์แฉอีก ฤาษีตาไฟ เลือกรีสอร์ตทำพิธีสาว17 ชี้ตัวจริง เล่นเฟซ-แช็ตไลน์ได้

ลูกศิษย์แฉอีก ฤาษีตาไฟ เลือกรีสอร์ตทำพิธีสาว17 ชี้ตัวจริง เล่นเฟซ-แช็ตไลน์ได้

ลูกศิษย์แฉอีก ฤาษีตาไฟ เลือกรีสอร์ตทำพิธีสาว17 ชี้ตัวจริง เล่นเฟซ-แช็ตไลน์ได้

จากกรณีที่นายสุรสิทธิ์ พลศักดิ์ อายุ 40 ปี ชาวบ้านละทาย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นร่างทรงฤาษีตาไฟ ถูกพ่อและแม่ของ น.ส.เอ อายุ 17 ปี แจ้งความที่สภ.เมืองศรีสะเกษว่า ได้ล่อลวง น.ส.เอ ไปข่มขืนกระทำชำเราที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในจ.ศรีสะเกษ เหตุเกิดระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตร.ตั้งข้อหาหนักคือ พรากผู้เยาว์และข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ล่าสุดนายสุรสิทธิ์ ยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กับน.ส.เอจริง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น อ่านข่าว ผลตรวจสาว 17 เหยื่อฤาษีตาไฟ ถึงตร.แล้ว เรียกสอบคนขับรถ พาเหยื่อไปสะเดาะเคราะห์
นายทวี ลูกศิษย์ของร่างทรงของฤาษีตาไฟ
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่สภ.เมืองศรีสะเกษ นายทวี ลูกศิษย์ของ นายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ ร่างทรงของฤาษีตาไฟ และเป็นผู้ที่ขับรถยนต์พานายสุรสิทธิ์ และ น.ส.เอ อายุ 17 ปี เข้าไปในรีสอร์ตที่ริมถนนสายศรีสะเกษ-ขุขันธ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อทำพิธีสะเดาะเคราะห์
ฤาษีตาไฟ
จนทำให้มีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้น เข้ามาพบกับ พ.ต.ท.ธนบัตร จันทร์ขาว สว.(สอบสวน) เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานเกี่ยวกับคดีนี้ เนื่องจากว่า นายทวีเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เรื่องนี้อย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มต้น โดยใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่ง พ.ต.อ.วันปิติ พฤธิกุล ผก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เข้ามาดูแลควบคุมการสอบปากคำอย่างใกล้ชิด
นายทวี กล่าวว่า เหตุการณ์ขมขืนที่เกิดขึ้นนั้น ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดตนเป็นเพียงแค่คนประสานงานในการเชิญร่างทรงฤาษีตาไฟมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้น.ส.เอ อายุ 17 ปี เท่านั้น
ส่วนการเลือก รีสอร์ตนั้น ร่างทรงฤาษีตาไฟเป็นคนเลือกเอง และเข้าทำพิธีกัน 2 คน ระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค. หลังจากนั้น 1 วัน ตนก็นำร่างทรงฤาษีตาไฟไปส่งที่บ้านละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
นายทวี กล่าวต่อว่า ต่อมาแม่และพี่สาวของเด็กอายุ 17 ปี เข้ามาต่อว่า ทำไมปล่อยให้ร่างทรงฤาษี ไปข่มขืนเด็ก 17 ปี ตนแจ้งให้ทราบว่าไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่ามีการข่มขืนกัน ตนเพียงพาไปสะเดาะเคราะห์เท่านั้น ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ส่วนที่สงสัยว่าร่างทรงฤาษีเล่นเฟซบุ๊ก เล่นไลน์ ได้หรือไม่นั้น ตนขอยืนยันว่าสามารถเล่นได้จริง เนื่องจากเห็นนายสุรสิทธิ์เล่นจริง โดยส่งสติกเกอร์ให้ตน ตนเป็นลูกศิษย์ของร่างทรงฤาษีตาไฟมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ภาพที่เห็นทางสื่อ กับความเป็นจริงของนายสุรสิทธิ์ไม่เหมือนจริง เพราะว่าหน้าตาของนายสุรสิทธิ์ จะไม่ปากเบี้ยว แขนขาสามารถใช้งานได้เป็นบางช่วง สามารถนั่งได้เป็นเวลานาน และสามารถจับปากกาเขียนยันต์ได้
ด้าน พ.ต.อ.วันปิติ พฤธิกุล ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเชิญนายทวี เทียนทอง มาให้ปากคำในฐานะพยานของคดีนี้ ซึ่งคำให้การของนายทวีเป็นประโยชน์มาก ทำให้ข้อเท็จจริง ซึ่งตรงกับนายทวีเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปแล้ว ตนสั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ต่อไป